สุขภาพ

ข้อแตกต่างระหว่าง โรคจิตเวช และโรคจิตเภทที่หลายคนเข้าใจผิด

“โรคจิตเวช” ต่างกับ “โรคจิตเภท” อย่างไร ทำไมในไทย พบโรคนี้มากอันดับหนึ่ง

สถานการณ์เรื่อง “ปัญหาสุขภาพทางใจ” หรือโรคทางใจในประเทศไทยยังคงมีสถิติสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยอาจมีประมาณ 600,000 คนทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามคำว่า “จิตเวช” และ “จิตเภท” นั้นถูกใช้แบ่งแยกอย่างไม่ถูกต้องในบ้านเรา ซึ่งโรคจิตเวชถูกใช้ในกรณีที่หมายถึงโรคหรืออาการที่ผิดปกติทางจิต อย่างเช่นโรคซึมเศร้า, โรคอารมณ์สองขั้ว, โรคกังวลไปทั่ว, โรคออทิสซึ่ม ซึ่งเป็นต้น และส่วนโรคจิตเภทหรืออีกชื่อหนึ่งคือ “schizophrenia” เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มอาการความผิดปกติทางจิตซึ่งมักพบความผิดปกติในระดับสารสื่อประสาท เช่น ความผิดปกติทางความคิดหรือการรับรู้ อาจมีอาการหลงผิด การรับรู้ที่ผิดปกติ และอาจพบอาการประสาทหลอน เช่น การได้ยินเสียงหรือมีกลิ่นหลอน

เข้าใจโรคจิตเภท ที่หลายคนบอกว่า ‘บ้า’ แท้จริงคือโรคทางสมอง | R U OK EP.209

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน กรมสุขภาพจิตได้กำหนดวันที่ 24 พฤษภาคมของทุกปีให้เป็น “วันโรคจิตเภทโลก” (World Schizophrenia Day) เพราะเป็นโรคจิตเวชที่พบได้ทั่วโลกมากกว่า 21 ล้านคน ในประเทศไทยเอง โรคนี้มีอัตราผู้ป่วยอยู่ในอันดับที่หนึ่งโดยมีประมาณ 1% ของประชากรป่วย และคาดว่ามีผู้ป่วยประมาณ 600,000 คนทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่พบในช่วงอายุ 15-35 ปี สาเหตุของโรคนี้สืบทอดมาจากพันธุกรรมและความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีความคิดและการรับรู้ที่ผิดไปจากความเป็นจริง และมีพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

การดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทมักเน้นการรักษาด้วยยาและการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านจิตสังคมและสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นประเภทผู้ป่วยเรื้อรังและต้องกินยาควบคุมอาการตลอดเวลาเพื่อให้อาการสงบลงและสามารถใช้ชีวิตในครอบครัวและชุมชนได้ ญาติและคนในสายงานสุขภาพจิตเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การดูแลที่ดีจากญาติสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการคงที่และไม่กำเริบซ้ำได้ ดังนั้น

บทความที่น่าสนใจเรื่อง “โรคจิตเวช” และ “โรคจิตเภท” และเหตุผลที่โรคนี้พบมากที่สุดในประเทศไทย ตามมาต่อไปนี้:

โรคจิตเวชและโรคจิตเภท แตกต่างกันอย่างไร?

บ่อนทำนองที่บ้านเรายังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคจิตอยู่จำนวนมาก โดยยังคงแยกแยะระหว่างโรคจิตเวชและโรคจิตเภทอย่างไม่ถูกต้อง โรคจิตเวชใช้ในกรณีที่หมายถึงโรคหรืออาการที่ผิดปกติทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า, โรคอารมณ์สองขั้ว, โรคกังวลไปทั่ว และโรคออทิสซึ่ม เป็นต้น ส่วนโรคจิตเภทหรืออีกชื่อหนึ่งคือ “schizophrenia” เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มอาการความผิดปกติทางจิตซึ่งมักพบความผิดปกติในระดับสารสื่อประสาท เช่น ความผิดปกติทางความคิดหรือการรับรู้ การได้ยินเสียงหรือมีกลิ่นหลอน เป็นต้น

ทำไมในประเทศไทยโรคจิตเภทเป็นโรคที่พบมากที่สุด?

ในประเทศไทย โรคจิตเภทเป็นโรคที่พบมากที่สุดอันดับหนึ่ง อัตราผู้ป่วยประมาณ 1% ของประชากรป่วย และประมาณ 600,000 คนทั่วประเทศ โรคนี้ส่วนใหญ่พบในช่วงอายุ 15-35 ปี สาเหตุของโรคนี้เกิดจากพันธุกรรมและความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดและการรับรู้ที่ผิดไปจากความเป็นจริง และมีพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

การดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภท

การดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทมีการเน้นที่การรักษาด้วยยาและการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านจิตสังคมและสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นประเภทผู้ป่วยเรื้อรังและต้องกินยาควบคุมอาการตลอดเวลาเพื่อให้อาการสงบลงและสามารถใช้ชีวิตในครอบครัวและชุมชนได้ ญาติและบุคลากรทางสุขภาพจิตเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การดูแลที่ดีจากญาติสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการคงที่และไม่กลับเสียใหม่ได้ ดังนั้นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของญาติที่ดูแลผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผลของการดูแลจากญาติสามารถทำนายอาการของผู้ป่วยโดยตรง หากผู้ดูแลมีคุณภาพชีวิตที่ดี จะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเหมาะสม แต่หากคุณภาพชีวิตของผู้ดูแลต่ำ อาจเกิดความกดดัน ความยากลำบาก และความเดือดร้อนจากการทำกิจกรรมหรือการดูแลผู้ป่วย อาจเสี่ยงต่อความเครียด ความท้อแท้ ความเบื่อหน่ายชีวิต หรืออาจเกิดโรคซึมเศร้าได้ โดยบางครั้งผู้ป่วยอาจถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ ซึ่งกำลังพัฒนาขึ้นในปัจจุบัน และจะใช้ในเขตสุขภาพและโรงพยาบาลจิตเวชทุกแห่งในอนาคต

ในสรุป โรคจิตเวชและโรคจิตเภทเป็นสภาวะที่มีความแตกต่างกัน และโรคจิตเภทเป็นโรคที่พบมากที่สุดในประเทศไทย การดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทเกี่ยวข้องกับการรักษาด้วยยาและการสนับสนุนสมรรถภาพด้านจิตสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ดูแลเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตมีนโยบายขยายผลให้การดูแลคุณภาพชีวิตของญาติที่ดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทด้วยเพื่อยกระดับคุณภาพบริการสำหรับผู้ป่วยในประเทศ ซึ่งมีผลต่อการดูแลผู้ป่วยโดยตรง ดังนั้น ความสำเร็จในการดูแลของญาติมีบทบาทสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ป่วยโรคจิตเภทอย่างยั่งยืน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *